Support
special_lift
0818344230
Your shopping cart
ดูตะกร้าสินค้าของคุณ
ไม่มีสินค้าในตะกร้าของคุณ
guest
ple
- Guest -

Post : 2014-08-27 15:04:37.0     Forum: สอบถาม  >  ขนาดบูทเลปล่อนที่ต้องการ

ถึง K.Nat

          ภาพบูทที่ต้องการสั่งทำ จำนวน 4 อัน รบกวนส่งเป็นใบเสนอราคามาตามเมลที่ส่งไปด้วยนะคะ

                                                                                                                            ขอบคุณค่ะ

                                                                                                                                 ple

guest
นิพนธ์
- Guest -

Post : 2014-06-29 21:02:38.0     Forum: สอบถาม  >  รับซื้อเศษเทปล่อน ptfe เศษขี้กลึง และเศษอื่นๆที่ไม่ใช้งานแล้วครับไม่ทราบว่าขายใหมครับ

 ไม่ทราบว่าเศษเทปล่อนที่ไม่ใช้งานแล้วขายใหมครับผมขอรับซื้อครับ ไม่ว่าเศษที่เป็นขี้กลึง เซษชิ้นที่ไม่ได้ใช้งานแล้วครับผมรับซื้อกิโลละ 20 บาทครับ

guest

Post : 2013-06-26 08:22:31.0     Forum: บทความน่าสนใจ  >  สับสนไหม... คะ ค่ะ คำไทยง่าย ๆ แต่ทำไมใช้ผิดกันบ่อยจัง

สับสนไหม... คะ ค่ะ คำไทยง่าย ๆ แต่ทำไมใช้ผิดกันบ่อยจัง

สับสนไหม... คะ ค่ะ คำไทยง่าย ๆ แต่ทำไมใช้ผิดกันบ่อยจัง




เรียบเรียงข้อมูลโดยกระปุกดอทคอม

            ใคร มั่นใจว่าตัวเองเป็นเซียนภาษาไทย ลองตอบหน่อยซิว่า คำต่อไปนี้เขียนถูกหรือผิดกันแน่จ๊ะ?..."สวัสดีคะ", "ไปไหนกันค่ะ", "ขอบคุณมากนะค๊ะ", "ไม่ทราบเหมือนกันคะ"

            เอ...ประโยคเหล่านี้ดูแล้วก็ไม่น่าจะเขียนผิดตรงไหนเลยใช่ไหมคะ ใครให้คำตอบแบบนี้ ต้องมารื้อฟื้นความรู้ภาษาไทยเสียใหม่แล้วล่ะ เพราะคำพวกนี้เขียนผิดล้วน ๆ แถมสมัยนี้เรายังเห็นคนใช้ คะ ค่ะ นะคะ ผิดกันเป็นแถว ๆ (อ่านแล้วก็แอบขัดใจเนอะ) พอไม่มีใครทักท้วงก็เลยใช้ผิดกันจนชินไปเลย ขืนปล่อยไว้แบบนี้ ไม่ดีแน่ ๆ

            ถึง เวลาต้องมาทำความเข้าใจกันใหม่แล้วล่ะจ้ะ ด้วยเคล็ดลับการเขียน คะ ค่ะ นะคะ แบบง่าย ๆ รับรองว่าใช้ได้ถูกต้องทุกสถานการณ์ ไม่สับสนแน่นอน

            ก่อนอื่น หลายคนคงสงสัยว่า คำว่า คะ ค่ะ นะคะ เขียนอย่างไรถึงถูกต้องกันแน่ บางคนเขียน "ค๊ะ" ใส่ไม้ตรีก็มี ซึ่งใครที่สงสัยเรื่องนี้ ต้องย้อนกลับไปดูหลักภาษาไทยพื้นฐานสมัยประถมกันก่อนค่ะ โดยเฉพาะเรื่อง "อักษรสูง-อักษรต่ำ", "คำเป็น-คำตาย" และการผันวรรณยุกต์

            ปกติแล้ว ที่เราผันวรรณยุกต์ 5 เสียงกันจนชิน อย่าง กา ก่า ก้า ก๊า ก๋า หรือ ปา ป่า ป้า ป๊า ป๋า เพราะตัว "ก" และ "ป" ที่ยกตัวอย่างมานี้เป็นอักษรกลาง คำเป็น เราเลยผันได้ 5 เสียงเต็ม ๆ แต่สำหรับ "ค" นั้น ตามหลักภาษาจัดให้เป็น "อักษรต่ำ" และถ้ามาผสมสระอะ เป็นคำว่า "คะ" จะถือเป็น "คำตาย" เพราะเป็นคำที่มีสระเสียงสั้น

            เมื่อเป็นแบบนี้ เท่ากับว่า คำว่า "คะ" เป็นอักษรต่ำด้วย และเป็นคำตายด้วย การผันวรรณยุกต์จึงผันได้เพียงแค่ 2 เสียงเท่านั้น คือ "ค่ะ" (เสียงเอก) กับ "คะ" (เสียงตรี) ดังนั้น ถ้าเห็นที่ไหนเขียน "ค๊ะ" หรือ "นะค๊ะ" เติมไม้ตรีล่ะก็ อันนี้ผิดแน่นอนค่ะ เพราะอักษรต่ำอย่าง "ค" จะผันด้วยไม้ตรีไม่ได้เชียว เขียนได้แค่ "คะ" กับ "ค่ะ" เท่านั้น


แล้ว "คะ" , "ค่ะ" ใช้ต่างกันอย่างไรล่ะ?

            ถ้าให้ออกเสียงพูด ทุกคนคงพูดถูกอยู่แล้วล่ะ ว่าประโยคไหนควรจะใช้ "คะ" หรือ "ค่ะ" แต่ถ้าให้เขียน เชื่อว่าคนเกินครึ่งต้องสับสนกันบ้างแน่ ๆ เพราะฉะนั้น มาดูหลักการจำง่าย ๆ เลย นั่นคือ
           
            "คะ"
ใช้ กับประโยคที่ต้องการแสดงเสียงสูง อาจเป็นประโยคคำถามหรือเรียกด้วยความสุภาพ เช่น ไปไหนกันคะ, ทางนี้ใช่ไหมคะ, ทานได้ไหมคะ พี่คะมาทางนี้หน่อย เข้าใจไหมคะ ฯลฯ

            "ค่ะ" (ออกเสียง ขะ) ใช้กับประโยคที่ต้องการเสียงต่ำ อย่างประโยคบอกเล่า ตอบรับ ตอบคำถาม เช่น สวัสดีค่ะ ขอบคุณค่ะ ทางนี้ค่ะ ไม่ชอบค่ะ ขอทางหน่อยค่ะ เชิญค่ะ รับทราบค่ะ เห็นด้วยค่ะ

            นะคะ ใช้กับประโยคบอกเล่า หรือตอบรับเช่นกัน แต่จะดูสุภาพและเป็นทางการกว่า เช่น ขอบคุณมากนะคะ คิดถึงนะคะ ไม่เข้าใจก็บอกนะคะ ไปแล้วนะคะ

            เห็นตัวอย่างการใช้คำ "คะ" "ค่ะ" "นะคะ" แล้ว ก็คงพอนึกภาพออกแล้วใช่ไหมค่ะ อุ้ย...ใช่ไหมคะ ต่อไปนี้เวลาส่งอีเมล แชท เล่นไลน์กับเพื่อน ก็ฝึกใช้คำเหล่านี้ให้ถูกต้องด้วยนะคะ... ไหน ๆ ลองยกตัวอย่างการเขียน คะ ค่ะ แบบถูกต้องให้ดูหน่อยซิ ^^

 

guest

Post : 2013-06-06 09:31:09.0     Forum: บทความน่าสนใจ  >  ใช้ลานลอดรถห้างอย่างไรให้ปลอดภัย

        ภัยร้ายบนลานจอดรถเราสามารถ ระวังโดยการป้องกันตัวเองในระดับหนึ่งได้ โดย Sanook! Auto มีข้อแนะนำดีๆ เผื่อหลีกเลี่ยงการเป็นเหยื่อของภัยสังคม 

1. สังเกตุให้ทั่วๆ ลาน จอดรถของห้างสรรพสินค้าส่วนใหญ่มักจะมีเสา หรือมุม ที่โจรแอบซ่อนอยู่ได้ รวมถึงแอบซ่อนอยู่หลังรถที่จอดในลานจอดเอง เมื่อคุณออกมาถึงลานจอดรถต้องสังเกตว่ามีใครมีพฤติกรรมน่าสงสัย อยู่แถวนั้นหรือไม่ ถ้ามีควรเริ่มต้นด้วยการเลี่ยงไปทำอย่างอื่นก่อน แต่ถ้าคุณไม่แน่ใจ ให้เริ่มด้วยการบอก รปภ.ถ้ามีอยู่แถวนั้น 

2.อย่าทำกิจกรรมอื่น หลายครั้งที่ผู้หญิงมักคุยโทรศัพท์ แชต ระหว่างเดินเข้าไปในลานจอดรถ ซึ่งต่างประเทศมีสถิติว่า ผู้ถูกจี้ปล้นทรัพย์ในลานจอดรถ ขณะใช้โทรศัพท์มือถือสูงมาก หลังจากนี้ต้องเลิกเสีย ให้ถึงตัวรถและล็อครถเสียให้เรียบร้อยก่อนค่อยทำกิจกรรมพวกนี้ 

3.เตรียมตัวให้พร้อม การขึ้นรถนั้นประการสำคัญที่สุดคือการปลดระบบล็อคที่ติดตั้งไว้เพื่อป้องกันการโจรกรรมรถยนต์ รถใหม่ อาจจะมีรีโมทหรือระบบ Keyless entry ที่ทำให้ง่ายต่อการใช้งาน แต่สำหรับหลายคนที่ต้องใช้กุญแจ คุณควรรู้จักที่จะเตรียมพร้อมและเตรียมตัวในการเปิดรถทันที โดยมากแล้ว สาวๆชอบควานหากุญแจในกระเป๋าถือใบโตๆ ที่ข้างรถ ซึ่งเป็นสาเหตุหลักที่ทำให้คุณตกเป็นเป้าของโจรได้อย่างไม่รู้ตัว ดังนั้นเตรียมพร้อมในจุดที่คุณหยิบกุญแจสะดวกจะดีกว่า ยิ่งถ้าคุณต้องหิ้วของมาด้วยควรจัดระเบียบให้ตัวเองก่อนจะดีที่สุด

4.ขึ้นแล้วล็อค เรื่องที่สำคัญต่อมาคือการขึ้นรถแล้วควรจะล็อคประตูทันที อย่าปล่อยให้โจรเข้ามาประชิดตัวคุณถึงในรถได้

5.กระจกส่องอีกทีให้มั่นใจ กระจก มองหลัง ที่จริงมันไม่ได้มีไว้ใช้มองรถคันหลังอย่างเดียว แต่มันยังมีประโยชน์ในการมองผู้โดยสาร ด้วยหลายครั้งโจรมักแอบขึ้นมาบนรถแล้วค่อยจี้คุณหลังจากขับขี่ไปแล้ว ซึ่งการมองกระจกมองหลังจะช่วยได้ในระดับหนึ่ง และหันไปมองอีกทีหนึ่งหลังจากล็อกรถเพื่อความปลอดภัยมากขึ้น

6.อย่านั่งแช่ในรถ เมื่อ ปิดประตูล็อครถเรียบร้อย อย่านั่งแช่ในรถเพื่อทำกิจอย่างอื่นก่อนที่จะออกไปจากลานจอดรถ เพราะเป็นเรื่องเสี่ยงภัย แม้เราจะล็อครถแน่นหนาแล้วก็ตาม แต่ลานจอดรถที่มีหลืบมุมมากๆก็ยังเป็นสถานที่เสี่ยงอยู่ดี ดังนั้น การหลีกเลี่ยง ด้วยการเคลื่อนรถออกจากลานจอดก่อนน่า จะเป็นเรื่องที่ดีที่สุด

 

                นอกจากนี้ถ้าเกิดเหตุการณ์ร้ายขึ้นจริง พยายามถ่วงเวลา คุยกับคนร้ายให้นานที่สุด เพื่อรอให้มีคนผ่านมาชาวยเหลือ และที่สำคัญที่สุดคือต้องมีคือ "สติ" เพื่อที่จะพาตัวเองให้หลุดพ้นจากภัยร้ายให้ได้

 

guest

Post : 2013-05-28 09:29:08.0     Forum: บทความน่าสนใจ  >  3G ราคาใหม่! กทสช. ประกาศเรตราคากลางลด 15% แล้ว

3G ราคาใหม่! กทสช. ประกาศเรตราคากลางลด 15% แล้ว


3G

เรียบเรียงข้อมูลโดยกระปุกดอทคอม


           3G ราคาใหม่! กทสช. ประกาศเรตราคากลางลด 15% แล้ว โทรเข้า-ออก นาทีละ 82 สต. SMS 1.33 บาท อินเทอร์เน็ต 0.28 บาทต่อเมก

           วันนี้ (27 พฤษภาคม) ผู้สื่อข่าวรายงานว่า หลังจากที่ กสทช. ได้เชิญผู้ประกอบการค่ายมือถือ 3 ราย ได้แก่ บริษัท แอดวานซ์ ไวร์เลส เน็ทเวอร์ค จำกัด, บริษัท ดีแทค เนทเวอร์ค จำกัด และบริษัท เรียลฟิวเจอร์ จำกัด  มาหารือถึงเรื่องการเปิดให้บริการ 3 จี คลื่น 2.1 กิกะเฮิร์ตซ  เกี่ยวกับเรื่องร้องเรียนต่าง ๆ จากผู้บริโภคที่ใช้งานระบบ 3จี ในวันนี้นั้น

           ล่าสุด มีรายงานว่า ทาง กสทช. ได้กำหนดราคากลาง 3จี เป็นทีเรียบร้อยแล้ว โดยมีผลตั้งแต่วันนี้เป็นต้นไป 

สำหรับอัตราค่าบริการ (ที่ลดลง 15%) มีดังต่อไปนี้

           โทรเข้า-ออก : ค่าบริการเดิม  97 สตางค์ต่อนาที ค่าบริการใหม่ 82 สตางค์ต่อนาที

           SMS : ค่าบริการเดิม 1.56 บาทต่อข้อความ ค่าบริการใหม่ 1.33 บาทต่อข้อความ

           MMS : ค่าบริการเดิม 3.90 บาทต่อข้อความ ค่าบริการใหม่ 3.32 บาทต่อข้อความ

           อินเทอร์เน็ต : 0.33 บาทต่อ 1 เมกกะไบท์ ค่าบริการใหม่ 0.28 บาทต่อ 1 เมกกะไบท์

อ่านรายละเอียดเพิ่มเติมจาก

guest

Post : 2013-05-07 00:23:56.0     Forum: บทความน่าสนใจ  >  แรงได้อีก! LINE มียอดผู้ใช้ทะลุ 150 ล้านแล้ว

แรงได้อีก! LINE มียอดผู้ใช้ทะลุ 150 ล้านแล้ว

เรียบเรียงข้อมูลโดยกระปุกดอทคอม
ขอขอบคุณภาพประกอบจาก LINE

          LINE แอพฯ แชทยอดฮิตมียอดผู้ใช้ทั่วโลกทะลุ 150 ล้านรายแล้ว ญี่ปุ่น ใต้หวัน ไทย ยังคงเป็นประเทศที่มีผู้ใช้มากที่สุด

          เมื่อวันที่ 1 พฤษภาคมที่ผ่านมา NAVER ผู้พัฒนาแอพพลิเคชั่น LINE ได้รายงานว่ายอดผู้ใช้ทั่วโลกของ LINE ในปัจจุบันได้พุ่งทะลุ 150 ล้านรายเรียบ ร้อยแล้ว หลังจากที่เพิ่งฉลองครบ 100 ล้านรายไปเมื่อ 4 เดือนที่แล้วเท่านั้น  โดย LINE ได้เปิดตัวครั้งแรกเมื่อเดือนมิถุนายนปี 2011 ซึ่งนับเป็นเวลากว่า 2 ปีแล้ว และได้รับความนิยมจากผู้คนทั่วโลกอย่างแพร่หลายมากขึ้นเรื่อย ๆ ซึ่งผู้ใช้ส่วนใหญ่จะอยู่ในทวีปตะวันออกกลางและเอเชีย โดยเฉพาะในประเทศ ญี่ปุ่น ใต้หวัน และไทยที่มียอดผู้ใช้งานสูงที่สุด

          สำหรับจุดเด่นที่ทำให้ LINE เป็นที่นิยมนั้น ก็คือสติ๊กเกอร์ตัวการ์ตูนน่ารัก ๆ ,มีความเป็นโซเชียลเน็ตเวิร์กในตัว รวมทั้งเกมและแอพพลิเคชั่นต่าง ๆ ที่เชื่อมต่อกับ LINE ทำให้ LINE เป็นแอพฯ แชทที่มีลูกเล่นหลากหลาย แปลกใหม่ และไม่เหมือนแอพฯ ทั่ว ๆ ไป โดยในอนาคตทาง NAVER มีเป้าหมายที่จะพัฒนาแอพฯ ให้มีประสิทธิภาพมากยิ่งขึ้น และเจาะกลุ่มผู้ใช้ในแถบทวีปอเมริกาและยุโรปให้เป็นที่นิยมเช่นเดียวกับ Facebook, Instagram หรือ WhatsApp

 

guest

Post : 2013-05-02 01:06:59.0     Forum: บทความน่าสนใจ  >  รู้หรือไม่ อักษร i บน iPhone ย่อมาจากอะไร ?

รู้หรือไม่ อักษร i บน iPhone ย่อมาจากอะไร ?

[30-เมษายน-2556] iPhone - เชื่อได้เลย คำถามจากหัวข้อข้างต้น คงจะมีหลายท่านสงสัยอยู่ไม่น้อยว่า ตัวอักษร i ที่อยู่ข้างหน้าผลิตภัณฑ์ของ Apple ไม่ว่าจะเป็น iMac, iPad, iPhone, iPod touch และอื่นๆ มาจากคำว่าอะไร และมีที่มาอย่างไร บางท่านอาจจะเคยได้ยินมาว่า i นั้น ย่อมาจาก internet หรือ individual แต่สำหรับ Mike Elgan นักเขียนจากเว็บไซต์ cultofmac ได้เผยว่า iPhone รุ่นใหม่ที่กำลังจะเปิดตัว หรือ iPhone 5S (ไอโฟน 5S) นั้น ตัวอักษร i ย่อมาจากคำว่า identity หรือแปลเป็นไทยก็คือ เอกลักษณ์ครับ

โดยคำว่า identity ไม่ ได้หมายถึงเฉพาะ การออกแบบตัวเครื่องเท่านั้น แต่รวมไปถึงเทคโนโลยี หรือนวัตกรรมต่างๆ ด้วย ยกตัวอย่างเช่น ข่าวลือต่างๆ ที่เกี่ยวกับ iPhone 5S ในช่วงนี้ ไม่ว่าจะเป็นเรื่องของ ระบบสแกนลายนิ้วมือ ที่คาดกันว่า น่าจะถูกนำมาใช้บน iPhone 5S หรือเทคโนโลยี NFC ที่จะเริ่มใช้บน iPhone 5S เป็นรุ่นแรก เป็นต้น ซึ่งสิ่งเหล่านี้ ถือว่า เป็นสิ่งที่ทำให้ iPhone 5S มีลักษณะพิเศษเฉพาะตัว จึงทำให้ตัวอักษร i นั้น หมายถึง identity นั่นเอง

Mike Elgan เผยว่า ถ้าหากโลกโซเชียลเน็ตเวิร์ค อย่าง Facebook หรือ Google+ อยู่ไม่รอด แต่เค้าเชื่อว่า Apple จะสามารถสร้างความสำเร็จต่อไปได้อย่างแน่นอน เพราะอะไรน่ะหรือครับ ?? เพราะว่า Apple มักจะมองการณ์ไกลเสมอ สิ่งที่ Apple ได้คิดค้นไม่ได้หมายถึงสิ่งที่ใช้ได้แค่ปีหรือ 2 ปี แต่สามารถต่อยอดและพัฒนาไปได้เรื่อยๆ นั่นเอง ต่างจาก social network ที่เน้นความนิยม ณ จุดนั้น เมื่อหมดยุคก็ค่อยค้นหาหนทางกันต่อไป

นอกจากนี้ Mike ยังเชื่อว่า นวัตกรรมที่ Apple ได้คิดค้นให้กับ iPhone นั้น จะถูกต่อยอดไปยัง iMac และ iPad ด้วย โดยเฉพาะ NFC และระบบสแกนนิ้วมือ ที่ตอนนี้ยังไม่มีข้อมูลว่า จะสามารถใช้งานอะไรได้บ้าง แต่คาดว่า น่าจะมีการรวมฟีเจอร์ 2 อย่างนี้เข้าด้วยกัน

สนับสนุนเนื้อหา : techmoblog

guest
thun
- Guest -

Post : 2013-04-06 19:57:11.0     Forum: สอบถาม  >  ต้องการแลกลิ้งค์ครับไม่ทราบว่าต้องทำอย่างไรบ้าง

  ต้องการแลกลิ้งค์ครับไม่ทราบว่าต้องทำอย่างไรบ้าง?กรุณาติดต่อกลับด้วย

http://www.thaibigbag.com/

http://slimfastter.com/

http://www.thaibigboard.com/

thuntaro@gmail.com

guest

Post : 2012-10-01 19:41:28.0     Forum: บทความน่าสนใจ  >  การจ้างแรงงานต่างด้าว

  การประกอบธุรกิจที่ ต้องการแรงงานที่มีฝีมือและมีความรู้ทางเทคโนโลยีที่ทันสมัย อาจหาแรงงานภายในประเทศได้ยาก บางครั้งจึงต้องจ้างแรงงานจากต่างประเทศ หรือที่เรียกว่าแรงงานต่างด้าวนั้นเอง  ซึ่งการจ้าง แรงงานที่มีฝีมือนั้นจะทำให้มีการถ่ายทอดความรู้และเทคโนโลยีสู่แรงงานไทย และในที่สุดจะก่อให้เกิดการพัฒนาศักยภาพทางธุรกิจของผู้ ประกอบการ

 

             แต่การจ้างแรงงานต่างด้าวเข้ามาทำงานในประเทศ ไทยจะต้องขออนุญาตจากทางราชการก่อน ซึ่งมีขั้นตอนและรายละเอียดในการขออนุญาตค่อนข้างยุ่งยากซับซ้อน  แรงงานต่างด้าวจึงไม่สามารถทำเองได้   ดังนั้น   ในการขออนุญาตจึงมัก เป็นหน้าที่ของนายจ้าง        

       

               การขออนุญาตจ้างแรงงานต่างด้าวต่อทาง ราชการ หรือการขอ Work Permit ให้แต่คนงานต่างด้าวนั้น จะต้องประกอบไปด้วยหลักเกณฑ์ ดังนี้

 

             ในกรณีที่นายจ้างเป็นนิติบุคคลที่มีขนาดการ ลงทุนจากทุนจดทะเบียนชำระแล้วไม่ต่ำกว่า 2,000,000  บาท โดยทุกๆ 2,000,000 บาทให้อนุญาตจ้างคนต่างด้าวทำงานได้ 1 คน หรือนายจ้างจดทะเบียนนิติบุคคลในต่างประเทศ และเข้ามาดำเนินธุรกิจในประเทศไทย ที่มีขนาดการลงทุนจากเงินที่นำเข้าจากต่างประเทศไม่ต่ำกว่า 3,000,000 บาท โดยทุกๆ 3,000,000 บาทให้จ้างได้ 1 คน แต่ทั้งนี้ให้อนุญาตได้ไม่เกิน 10 คน

 

 เว้นแต่งานที่คนต่างด้าวทำใช้เทคโนโลยีซึ่งคน ไทยยังทำไม่ได้ หรือจำนวนไม่เพียงพอต่อความต้องการของตลาดแรงงานภายในประเทศ หรือคนต่างด้าวทำงานโดยใช้ความรู้ความชำนาญเฉพาะทางเพื่อให้งานสำเร็จภายใต้ โครงการที่มีระยะเวลาแน่นอน หรือคนต่างด้าวทำงานในกิจการการบันเทิง มหรสพ ดนตรี ซึ่งมีลักษณะการจ้างงานเป็นครั้งคราวมีระยะเวลากำหนดไว้แน่นอน  เจ้าหน้าที่สามารถพิจาราณาแรงงานต่างด้าวได้เกินกว่าที่ กำหนดตามความเหมาะสมได้   

 

 ส่วนกรณีที่นายจ้างเป็นบุคคลธรรมดา จะต้องมีรายได้จากการประกอบกิจการในรอบปีที่ผ่านมาหรือปีปัจจุบันทุกๆ 700,000 บาท หรือ นายจ้างที่ได้ชำระภาษีเงินได้ให้แก่รัฐในรอบปีที่ผ่านมาทุก 50,000 บาท จึงสามารถขออนุญาตแรงงานต่างด้าวได้ 1 คน แต่ทั้งนี้ขออนุญาตได้ไม่เกิน 3 คน

 

 แต่ถ้าคนต่างด้าวมีคู่สมรสเป็นคนไทยซึ่งจด ทะเบียนสมรสถูกต้องตามกฎหมายและอยู่กินร่วมกันฉันท์สามีภรรยาโดยเปิดเผย ขนาดของการลงทุนตามที่กำหนดไว้ข้างต้นทั้งสองกรณีให้ลดลงกึ่งหนึ่ง

 

            ลักษณะงานที่นายจ้างจะขออนุญาตต้องไม่ใช่งาน ต้องห้ามตามพระราชกฤษฎีกาเรื่องกำหนดงานในอาชีพที่ห้ามคนต่างด้าวประกอบ อาชีพในประเทศไทย ซึ่งคืองานที่สงวนให้เฉพาะคนไทยเท่านั้น เช่น งานตัดผม งานเสริมสวย งานแกะสลักไม้ งานทำเครื่องเขิน และงานในวิชาชีพสถาปัตยกรรม ที่เกี่ยวกับการออกแบบ เขียนแบบ ประเมินราคา เป็นต้น

 

            นอกจากนี้คนงานต่างด้าวที่นายจ้างจะสามารถขอ อนุญาตต่อเจ้าหน้าที่เพื่อให้ทำงานได้นั้นจะต้องไม่เป็นบุคคลที่ขาด คุณสมบัติหรือต้องห้ามตามกฎหมาย รวมทั้งจะต้องมีความรู้และความสามารถในการทำงานตามที่ขอรับใบอนุญาต  ไม่เป็นบุคคลวิกลจริตหรือมีจิตฟั่นเฟือนไม่สมประกอบ  ไม่เป็นผู้เจ็บป่วยด้วยโรคเรื้อน วัณโรคในระยะอันตราย โรคเท้าช้างในระยะปรากฎอาการอันเป็นที่รังเกียจแก่สังคม โรคติดยาเสพติดให้โทษอย่างรุนแรง หรือโรคพิษสุราเรื้อรัง และไม่เคยต้องโทษจำคุกในความผิดตามกฎหมายว่าด้วยคนเข้าเมือง หรือกฎหมายว่าด้วยการทำงานของคนต่างด้าว ภายในระยะเวลาหนึ่งปีก่อนวันขอรับใบอนุญาต

 

ส่วนหลักเกณฑ์การพิจารณาขออนุญาตการทำงานของคน ต่างด้าวของเจ้าหน้าที่จะเป็นไปตามระเบียบของกรมการจัดหางานว่าด้วยหลัก เกณฑ์การพิจารณาอนุญาตการทำงานของคนต่างด้าว พ.ศ. 2547  โดยการพิจารณาจะคำนึงถึง

 

1.     ความมั่นคงภายในประเทศ ด้านการเมือง ศาสนา เศรษฐกิจและสังคม

2.     การ ปกป้องมิให้คนต่างด้าวเข้ามาแย่งอาชีพที่คนไทยมีความรู้ความสามารถที่จะทำ ได้ และมีจำนวนเพียงพอต่อความต้องการของตลาดแรงงานในราชอาณาจักร

3.   ประโยชน์จากการอนุญาตให้คนต่างด้าวทำงานในตำแหน่งงานนั้นก่อให้ เกิดการนำเงินตรา   ต่างประเทศเข้ามาลงทุนหรือใช้ จ่ายในประเทศเป็นจำนวนมาก  ก่อให้เกิดการจ้างงานคน ไทย  จำนวนมากหรือเป็นตำแหน่งที่ต้องใช้ความรู้ความ ชำนาญในวิทยาการสมัยใหม่ที่เป็นประโยชน์  ต่อการ พัฒนาเศรษฐกิจของประเทศและมีการถ่ายทอดให้คนไทย

4.   การพัฒนาทักษะฝีมือที่คนไทยจะได้รับจาก การที่คนต่างด้าวซึ่งได้รับอนุญาตให้ทำงานได้ และ ถ่ายทอดความรู้ ความเข้าใจ วิธีการ รายละเอียดที่เกี่ยวข้องของเครื่องจักร เครื่องมือ และความรู้ ความชำนาญในวิทยาการสมัยใหม่ให้แก่คนไทยในงานนั้น    

  

            สถานที่ในการยื่นขออนุญาตนั้น ถ้าสถานประกอบการอยู่ในกรุงเทพมหานครให้ยื่นขออนุญาตได้ที่กองงานคนต่างด้าว  ส่วนในจังหวัดที่มีแรงงานจังหวัดให้ยื่นขออนุญาต ณ สำนักงานแรงงานจังหวัดนั้น ๆ

 

            แรงงานที่ได้รับใบอนุญาตทำงานถูกต้องตาม กฎหมายคงไม่มีปัญหาอะไรเพราะสามารถควบคุมและตรวจสอบได้  แต่ ถ้าเป็นแรงงานผิดกฎหมาย อาจทำให้ทั้งนายจ้างและลูกจ้างต่างด้าวมีความผิดและอาจต้องรับโทษทางอาญา   

 


guest

Post : 2012-10-01 19:39:27.0     Forum: บทความน่าสนใจ  >  ความรับผิดของผู้ผลิต สินค้า

           วิวัฒนาการ ของประเทศไทยในปัจจุบัน ทำให้มีการพัฒนาเทคโนโลยีในการผลิตสินค้ามีความซับซ้อนมากขึ้น ผู้ผลิตสินค้ามีการแข่งขันในทางธุรกิจเพื่อให้ได้เปรียบในทางการค้า โดยการผลิตสินค้าที่แปลกใหม่ทั้งรูปลักษณ์และสีสัน ซึ่งบางครั้งสินค้าที่ผลิตได้เหล่านั้น อาจก่อให้เกิดอันตรายต่อผู้บริโภคได้ ถ้าสินค้านั้นเกิดการชำรุดบกพร่องหรือเป็นสินค้าที่ก่อให้เกิดอันตราย

 

                     เมื่อสินค้ามีผลต่อความรับผิดชอบของ ผู้ผลิต ผู้ประกอบการซึ่งอยู่ในฐานะของผู้ผลิตสินค้าออกจำหน่ายสู่ผู้บริโภค จึงต้องระมัดระวังในเรื่องของคุณภาพสินค้าและความปลอดภัย เพราะหากเกิดกรณีสินค้าชำรุดบกพร่องหรือเป็นอันตรายต่อสุขภาพหรือร่างกายของ ผู้บริโภค ก็อาจจะทำให้ผู้ผลิตต้องรับผิดทั้งในเรื่องสัญญาซื้อขายและการละเมิดได้

 

                      ในกรณีที่ผู้บริโภคที่ซื้อสินค้า จากผู้ผลิต ทั้งสองฝ่ายย่อมมีนิติสัมพันธ์ต่อกันตามสัญญาซื้อขาย อันจะทำให้ผู้ผลิตต้องรับผิดในเรื่องของความชำรุดบกพร่องของสินค้า

 

                        ไม่ว่าจะเป็นการซ่อมแซม การชดใช้ราคา หรือการเปลี่ยนตัวสินค้าชิ้นใหม่ให้แก่ผู้บริโภค ซึ่งต่างกับกรณีที่ผู้เสียหายเป็นบุคคลภายนอกที่ไม่ได้เป็นผู้ซื้อสินค้าโดย ตรง แต่เป็นผู้ได้รับความเสียหายจากตัวสินค้า ถึงแม้บุคคลภายนอกผู้ได้รับความเสียหายจะไม่มีนิติสัมพันธ์โดยตรงกับผู้ผลิต และไม่มีสิทธิเรียกร้องตามสัญญาซื้อขายซึ่งจำกัดเฉพาะคู่สัญญาเท่านั้น ผู้ผลิตก็ยังคงต้องรับผิดในฐานะทำละเมิดต่อผู้อื่น

 

                        กรณีความรับผิดตามสัญญาซื้อขาย เช่น นาย ก. ซื้อรถยนต์มาจากบริษัท ข. ซึ่งเป็นบริษัทผู้ผลิตรถยนต์ และปรากฏว่าเบรคห้ามล้อมีความชำรุดบกพร่องจากการผลิต เมื่อนาย ก. ขับรถยนต์ไปจนเกิดอุบัติเหตุชนต้นไม้จนทำให้รถยนต์ได้รับความเสียหาย นาย ก. ก็สามารถฟ้องบริษัท ข. ให้รับผิดตามสัญญาซื้อขายได้ โดยบริษัท ข. ก็อาจจะต้องซ่อมแซม หรือเปลี่ยนรถยนต์คันใหม่ให้กับนาย ก. ด้วย

 

                        ในส่วนของกรณีความรับผิดในทาง ละเมิดจากการผลิตนั้น แม้บุคคลภายนอกผู้ได้รับความเสียหายจะไม่มีสิทธิเรียกร้องใดๆ ในทางสัญญากับผู้ผลิตสินค้า แต่ผู้ผลิตก็อาจจะต้องรับผิดในเสียหายที่เกิดขึ้นด้วย

 

                        เช่น กรณีที่นาย ก. ขับรถยนต์ดังกล่าวจากตัวอย่างข้างต้น ไปชน นาย ค. เพราะเหตุบกพร่องของเบรคห้ามล้อจากการผลิตเช่นนี้ นากจากบริษัท ข. จะต้องรับผิดต่อนาย ก. ตามสัญญาซื้อขายแล้ว บริษัท ข. ก็จะต้องรับผิดกับ นาย ค. ในความผิดฐานละเมิดต่อผู้อื่นอีกด้วย

 

                      หรืออีกในกรณีหนึ่งซึ่งผู้ผลิตได้ ผลิตสินค้าที่อาจเป็นอันตรายต่อผู้บริโภค เช่น ผู้ผลิตของเด็กเล่นได้โฆษณาสินค้าของตนว่าเหมาะสำหรับเด็กอายุตั้งแต่ 3-10 ปี แต่ปรากฏว่าเด็กอายุ 8 ปี ไปเล่นของเล่นดังกล่าวแล้วเกิดบาดแผลถึงขั้นต้องพบแพทย์ โดยของเล่นนั้นมีสภาพไม่เหมาะแก่เด็ก ผู้ปกครองก็อาจจะเรียกร้องให้ผู้ผลิตรับผิดชอบในความผิดฐานละเมิดได้

 

                       นอกจากนี้การโฆษณาเกินจริงของผู้ ผลิตสินค้าเพื่อให้ผู้บริโภคหลงเชื่อและหันมาบริโภคสินค้านั้นๆ ถ้าผู้บริโภคได้ใช้สินค้านั้นแล้วไม่ได้ผลอย่างที่โฆษณาไว้ก็อาจเป็นความผิด ทางอาญาในข้อหาฉ้อโกงประชาชน และอาจจะต้องรับโทษถึงขั้นจำคุกอีกด้วย

 

                      แม้ว่าในประเทศไทยจะไม่มีกฎหมาย เฉพาะในเรื่องเกี่ยวกับความรับผิดเด็ดขาดจากการผลิตสินค้า เพราะตามพระราชบัญญัติคุ้มครองผู้บริโภค พ.ศ.2522 จะให้ความคุ้มครองเฉพาะ ผู้ขาย ผู้ซื้อ ผู้เช่าซื้อ และผู้ได้รับบริการโดยเสียค่าตอบแทนเท่านั้น ซึ่งไม่ได้คุ้มครองผู้บริโภคตามความเป็นจริง แต่อย่างไรก็ตามกฎหมายเกี่ยวกับการละเมิดก็สามารถนำมาปรับใช้เพื่อคุ้มครอง สิทธิของบุคคลภายนอกผู้ได้รับความเสียหายได้

 

                       การที่ผู้ประกอบการผลิตสินค้าให้ มีคุณภาพและความปลอดภัย ย่อมแสดงให้เห็นถึงคุณธรรมของผู้ผลิตและจะเป็นการสร้างความน่าเชื่อถือให้ แก่ลูกค้าหรือผู้บริโภค ในการที่จะเลือกซื้อสินค้า ซึ่งบางครั้งการผลิตสินค้าโดยคำนึงถึงแต่ต้นทุนการผลิตเพื่อให้ได้กำไรมาก ขึ้น จนไม่สามารถผลิตสินค้าที่ดีมีมาตรฐานได้ อาจเป็นการทำลายชื่อสียงของผู้ประกอบการรวมถึงอาจต้องรับผิดชดใช้ค่าเสียหาย ดังที่กล่าวมาข้างต้น

 

                       และหากจะผลิตสินค้าเพื่อส่งออกไป ยังต่างประเทศ ผู้ประกอบการควรศึกษาข้อกำหนดและกฎหมายคุ้มครองผู้บริโภคของต่างประเทศที่มี ความเข้มงวดกว่าในประเทศไทยมาก เพราะการผลิตสินค้าที่ไม่ได้คุณภาพอาจจะสูญเสียทั้งสินค้าและโอกาสในการส่ง ออกไปยังต่างประเทศต่อไป

 

guest

Post : 2012-10-01 19:34:28.0     Forum: บทความน่าสนใจ  >  10 เรื่องน่าสนใจเกี่ยวกับเทคโนโลยีที่อยู่ใกล้ตัวคุณ

 1. Smartphone อวัยวะลำดับที่ 33 ของทุกคน

           คนแทบทุกเพศทุกวัย ทุกสาขาอาชีพน่าจะต้องมีโทรศัพท์มือถือเป็นของใช้ประจำกายกันแทบทุกคน แต่รู้หรือเปล่าว่าสมาร์ทโฟนในยุคนี้ทำอะไรได้มากกว่าที่เราคิด ปัจจุบันเราสามารถพูดคุยกับมือถือของเรา สั่งงานด้วยเสียงได้โดยที่ไม่ต้องกดปุ่ม สมาร์ทโฟนใหม่ ๆ แทบทุกรุ่นมี GPS ติดตั้งในตัว เราสามารถใช้เป็นเครื่องมือนำทางได้ ล่าสุดมีการประยุกต์ใช้สมาร์ทโฟนให้กลายเป็นเครื่องมือนำทางของคนตาบอด โดยใช้ความสามารถของการสั่งงานด้วยเสียงและการระบุตำแหน่งด้วยระบบ GPS ไม่แน่ว่าในอนาคตอันใกล้ เมื่อเราอยากจะตัดสินใจอะไร เราอาจจะต้องหันมาพูดคุยปรึกษากับอวัยวะลำดับที่ 33 นี้ก็เป็นได้นะ

 

2. Bluetooth Headset เทคโนโลยีที่ซ่อนอยู่ข้างใบหู

           รู้หรือเปล่าว่าหูฟังชิ้นเล็ก ๆ นี้มีเทคโนโลยีมากมายที่ได้ถูกบรรจุเอาไว้ ไม่ว่าจะเป็นเทคโนโลยีในการตัดเสียงรบกวนรอบข้างที่จะช่วยให้การสนทนาของเรา เป็นไปอย่างราบรื่น ซึ่งมีเทคโนโลยีหลายรูปแบบที่ถูกออกแบบมาเพื่อการนี้โดยเฉพาะ เช่น การใช้ไมค์รับเสียงแบบพิเศษที่สามารถตรวจสอบคลื่นรบกวน เสียงลม เสียงรอบข้างที่ไม่ใช่เสียงพูดได้ หรือการใช้เซ็นเซอร์ในการตรวจจับการขยับของกล้ามเนื้อเพื่อใช้เป็นข้อมูล ประกอบการตัดสินใจในการตัดเสียงรบกวน นอกจากนี้หูฟังบลูทูธอย่าง Jawbone ยังสามารถลงแอพพลิเคชั่นเพื่อเพิ่มความสามารถ เพิ่มฟังก์ชั่นการทำงานได้อีกด้วย

 

3. Headphone นวัตกรรมเพื่อความบันเทิง

           รู้หรือเปล่าว่าเสียงคุณภาพดีที่ได้จากหูฟังแต่ละประเภทมีเทคโนโลยีระดับสูง ซ่อนอยู่มากมาย การออกแบบหูฟังตัวใหญ่ ๆ กับการออกแบบหูฟังแบบ In-Ear ก็จะใช้เทคโนโลยีที่แตกต่างกัน พื้นฐานของการออกแบบหูฟัง ก็คือการพยายามย่อขนาดส่วนประกอบต่าง ๆ ของลำโพงมาบรรจุไว้ในหูฟัง โดยรักษาระดับคุณภาพของเสียงไว้ให้ได้มากที่สุด ฉะนั้นหูฟังจึงมีหลายระดับราคา ในหูฟังราคาระดับหมื่นบาทนั้นภายในจะประกอบด้วยวงจรตัวขับที่ออกแบบอย่าง พิถีพิถัน เพื่อให้ได้เสียงร้องที่ชัดเจน เสียงเบสที่หนักแน่น ลองฟังเพลงเดิมด้วยหูฟังดี ๆ สักตัวดูสิ แล้วจะรู้ว่าความแตกต่างของคุณภาพเสียงเป็นอย่างไร

 

4. Watch เมื่อนาฬิกาเป็นมากกว่าเครื่องบอกเวลา

           ถามว่านาฬิกาเรือนนี้ "ทำอะไรได้บ้าง?" คงจะได้คำตอบมากมายเพราะนาฬิกาในยุคที่เทคโนโลยีก้าวกระโดดแบบนี้ เพราะมักมีฟังก์ชั่นการทำงานที่นอกเหนือจากความสามารถพื้นฐานอย่างใช้จับ เวลา หรือใช้บอกเวลาทั่วโลก นาฬิกาบางรุ่นสามารถเดินได้เองโดยไม่ต้องใช้ถ่านและยังคงความเที่ยงตรงไว้ ได้สมบูรณ์ 100% ซึ่งยากที่นาฬิกาแบบออโตเมติกรุ่นก่อน ๆ จะทำได้ หรือนาฬิกาที่ใช้เป็นโทรศัพท์ นาฬิกาที่ออกแบบมาเพื่อนักดำน้ำ นักปีนเขา หรือกิจกรรมเฉพาะด้าน ลองมองดูนาฬิกาที่เราสวมอยู่สิครับว่าทำอะไรได้บ้าง? มองดูแล้วอยากจะเปลี่ยนนาฬิกากันบ้างหรือยัง?

 

5. Tablet เมื่อความบันเทิงพกติดตัวไปได้ทุกที่

           ตั้งแต่แอปเปิลเปิดตัว iPad เราก็ได้เห็นพฤติกรรมและรูปแบบการใช้ชีวิตของคนในยุคดิจิตอลเปลี่ยนไปพอ สมควร และในตอนนี้ก็มีแท็บเล็ตออกมามากมายหลายรุ่นให้เลือกใช้งาน แต่จะมีสักกี่คนที่สามารถใช้งานได้อย่างเต็มประสิทธิภาพ? รู้หรือไม่ว่าเราสามารถเข้าไปศึกษาหรือเข้าเรียนคอร์สต่าง ๆ ของมหาวิทยาลัยชั้นนำในต่างประเทศแบบออนไลน์ได้ เราสามารถแก้ไขไฟล์เอกสารงานต่าง ๆ ได้ด้วยชุดแอพพลิเคชั่นออฟฟิศที่มีประสิทธิภาพโดยไม่ต้องพึ่งพาคอมพิวเตอร์ อีกต่อไป และถ้าเราเป็นผู้ที่ชื่นชอบความบันเทิงรูปแบบใหม่ ๆ เดี๋ยวนี้มีเกมบนแท็บเล็ตที่เราสามารถเล่นกับเพื่อน ๆ ที่ออนไลน์อยู่อีกฝั่งนึงของโลกได้แบบเรียลไทม์เลยทีเดียว

 

6. E-Reader เพื่อนคู่ใจหนอนหนังสือ

           หลายคนอาจจะไม่คุ้นเคยกับอุปกรณ์ E-Reader อย่าง Amazon Kindle หรือ Nook อุปกรณ์อ่านหนังสืออิเล็กทรอนิกส์คู่ใจหนอนหนังสือยุคไอที แต่ไม่ช้าก็เร็วเจ้า E-Reader จะเข้ามาแทนที่หนังสือเกือบ 100% อย่างแน่นอน รู้หรือเปล่าว่าเจ้าอุปกรณ์ชิ้นนี้ช่วยให้เราสามารถขนหนังสือเป็นพัน ๆ เล่มติดตัวไปได้โดยมีน้ำหนักไม่ถึงหนึ่งกิโลกรัม เทคโนโลยีที่ใช้ในการแสดงผลก็ให้รู้สึกในการอ่านที่ใกล้เคียงกับกระดาษอ่าน สบายตา และยังมีฟังก์ชั่นดี ๆ อย่างระบบ Note และ Bookmark ที่เราสามารถซิงค์ข้อมูลการอ่านของเราได้กับอุปกรณ์หลายตัว ทำให้สามารถอ่านหนังสือเล่มโปรดได้ทุกที่ทุกเวลาเลยล่ะ

 

7. Laptop เมื่อต้องพกคอมพิวเตอร์ติดตัวไปทุกที่

           ไม่ว่าเราจะทำงานในสาขาอาชีพอะไร เครื่องคอมพิวเตอร์ก็ดูจะเป็นสิ่งจำเป็นในการทำงานไปแล้ว และนับตั้งแต่วันที่แล็ปท็อปเครื่องแรกถือกำเนิดขึ้น ทำให้เราหอบหิ้วเครื่องคอมพิวเตอร์ไปได้ทุกที่ จนถึงวันนี้ก็มี Ultrabook ที่เป็นแล็ปท็อปดีไซน์บางเฉียบ มีน้ำหนักเบา พกพาสบายไม่เป็นภาระ แต่ยังคงไว้ซึ่งประสิทธิภาพระดับเดียวกับเครื่องคอมพิวเตอร์เครื่องใหญ่ ๆ หรือแล็ปท็อปเครื่องหนัก ๆ ที่น่าสนใจคือแล็ปท็อปรุ่นใหม่เดี๋ยวนี้มีระบบรักษาความปลอดภัยทั้งแบบสแกน นิ้วมือและแบบจดจำใบหน้า มีหน้าจอการแสดงผลที่ละเอียดและแสดงผลได้สวยงามไม่แพ้จอรุ่นใหญ่ ๆ ในอนาคตอันใกล้เราคงจะได้เห็นการรวมกันระหว่างแท็บเล็ตและแล็ปท็อปก็เป็นได้

 

8. Compact Camera กล้องขนาดเล็กคุณภาพเกินตัว

           กล้องคอมแพคถือเป็นกล้องที่ขายดีที่สุด เพราะมีขนาดเล็ก พกพาสะดวก ราคาไม่แพง เมื่อก่อนการใช้งานกล้องคอมแพคก็เพียงเพื่อเก็บภาพประทับใจโดยไม่ได้คาดหวัง กับคุณภาพของภาพสักเท่าไร แต่รู้หรือเปล่าว่าในปัจจุบันเทคโนโลยีที่อยู่ในกล้องตัวเล็ก ๆ นี้ก้าวหน้าไปมาก กล้องคอมแพคสามารถโฟกัสใบหน้าคนได้อัตโนมัติ สามารถจดจำใบหน้าของคนที่เรารู้จัก และยังสามารถบันทึกพิกัดของสถานที่ที่เราเก็บภาพได้ด้วยระบบ GPS แถมยังสามารถส่งข้อมูลผ่าน WiFi เพื่อโอนหรือแชร์ภาพถ่ายได้ทันที และนวัตกรรมใหม่ที่เรียกว่า Mirrorless ซึ่งเป็นกล้องตัวเล็กที่สามารถเปลี่ยนเลนส์ได้ ก็ช่วยให้เราได้ภาพในระดับมืออาชีพเลยทีเดียว

 

IT-2

 

9. GPS เพื่อนคู่ใจในการเดินทาง

           ไลฟ์สไตล์ของคนที่ชื่นชอบการท่องเที่ยวชอบการเดินทาง อุปกรณ์นำทางอย่าง GPS Navigator ก็คงจะเป็นอุปกรณ์คู่ใจที่ช่วยให้การเดินทางมีสีสันมากยิ่งขึ้น บางคนอาจจะใช้เพียงฟังก์ชั่นพื้นฐานเท่านั้น แต่รู้หรือเปล่าว่าอุปกรณ์ GPS ในสมัยนี้มีราคาที่ถูกลงมาก แถมมีฟังก์ชั่นการใช้งานที่เพิ่มขึ้น ไม่ว่าจะเป็นจุด POI ที่ครอบคลุมมากขึ้น ระบบการจับสัญญาณดาวเทียมเพื่อคำนวณพิกัดที่ดียิ่งขึ้น ลูกเล่นในการบอกเส้นทาง เช่น การแสดงภาพทางร่วมทางแยกต่าง ๆ เป็นรูปภาพพร้อมแสดงช่องจราจรให้เสร็จสรรพ ป้องกันการเข้าเลนผิดช่องในเมืองใหญ่ ๆ ที่ถนนพันกันเป็นเส้นก๋วยเตี๋ยวได้ดียิ่งขึ้น นอกจากนี้ยังมีลูกเล่นของการพูดบอกเส้นทางเป็นภาษาต่าง ๆ ทั้งไทยและเทศ ไทยเหนือ ไทยอีสาน เสียงผู้ชาย เสียงผู้หญิง และลูกเล่นอีกมากมายที่จะช่วยให้การเดินทางเป็นเรื่องน่าสนุกมากยิ่งขึ้น

 

10. Handheld Game Console พกความสนุกไปทุกที่

           ในยุคดิจิตอลที่เกมและความบันเทิงเป็นของคู่กัน เครื่องเกมแบบพกพา จึงเป็นสิ่งที่ได้รับความนิยมอย่างแพร่หลาย เครื่องเล่นเกมแบบพกพาอย่าง Nintendo DS, 3DS และ Sony PSP, Vita เป็นเครื่องเล่นเกมแบบพกพาที่อัดแน่นทั้งความบันเทิงและเทคโนโลยี แต่รู้หรือเปล่าว่าเครื่องเล่นเกมเครื่องเล็ก ๆ เหล่านี้ สามารถเชื่อมต่อกับอินเทอร์เน็ตเพื่อเล่น เกมออนไลน์ได้ และถึงจะมีหน้าจอเล็ก ๆ แบบนี้แต่ก็สามารถใช้ดูหนังฟังเพลงด้วยการแสดงผลภาพและเสียงที่ทำได้อย่างดี เยี่ยม นอกจากนี้ การเล่นเกมยังเพิ่มอรรถรสด้วยระบบสั่นสะเทือนในตัว สามารถเล่นเกมที่แสดงผลในแบบ 3 มิติได้ ทั้งยังมีเทคโนโลยีล่าสุดอย่าง AR (Augmented Reality) ที่พลิกโฉมรูปแบบในการเล่นเกมแบบพกพาไปอย่างสิ้นเชิง ใครที่ยังไม่ไม่เคยเล่น ลองหาโอกาสไปสัมผัสกันดูนะครับ

 

guest

Post : 2012-02-27 15:53:48.0     Forum: บทความน่าสนใจ  >  ขั้นตอนการรักษาจะใช้ระบบ

  • ขั้นตอนการรักษาจะใช้ระบบ Thermacool ซึ่งผ่านการรับรองจากองศ์การอาหารและยา (FDA)ของสหรัฐอเมริกา
  • คลื่นวิทยุความถี่ 6 เมกะเฮิร์ซจะถูกควบคุมให้ส่งความร้อนไปยังชั้นล่างสุดของผิว
  • หัวส่งคลื่นความถี่ที่อยู่บนด้ามส่งคลื่นความถี่จะวางทาบลงบนผิวหนังเบา ๆเพื่อส่งจังหวะพลังงานความถี่คลื่นวิทยุ RF ซึ่งแต่ละจังหวะจะยาวประมาณ 1 วินาที
  • หัว ส่งคลื่นความถี่นี้จะให้ความเย็นและป้องกันหนังชั้นกำพร้าไว้ ระหว่างที่พลังงานทะลุผ่านเข้าสู่ผิวหนังเพื่อสร้างความร้อนให้กับเส้นใยคอ ลลาเจนที่อยู่ในชั้นหนังแท้ และเนื้อเยื่อชั้นไขมันใต้ผิวหนัง
  • ทุก ครั้งที่ผิวสัมผัสกับอุปกรณ์ในการรักษาคุณจะรู้สึกเย็น และรู้สึกร้อนลึก ๆ ข้างในจากนั้นจะรู้สึกเย็นมากขึ้นความรู้สึกเย็นอย่างต่อเนื่องจะช่วยปกป้อง ผิวของคุณ และช่วยให้การรักษานั้นสบายขึ้น ลิฟท์ยกรถ

guest

Post : 2012-02-20 12:38:01.0     Forum: บทความน่าสนใจ  >  เลือกโลชั่นสอดรับอากาศเปลี่ยนแปลง

  อาการผิวแห้งผิวตึง ผิวไม่เรียบนุ่มชุ่มชื่น หรือแม้แต่ผิวแห้งแตกเป็นขุยที่เกิดขึ้นได้กับคุณสาว ๆ ไม่ว่าอากาศจะหนาวหรือไม่นั้น น.ส.ธิดารัตน์ ทรัพย์วิทยาภัณฑ์ หัวหน้าแผนกเภสัชกรรม แผนกประกันสังคม รพ.กล้วยน้ำไท 1 อธิบายถึงสาเหตุของอาการผิวแห้งไว้น่าสนใจว่า ส่วนหนึ่งมาจากความชื้นสัมพันธ์ในอากาศลดลงต่ำจากค่าเฉลี่ยปกติ ดังนั้นการเลือกใช้ผลิตภัณฑ์บำรุงผิวในช่วงหน้าหนาวหรืออากาศแห้งนั้น ควรเลือกประเภทที่เหมาะกับสภาพผิว 

           ขณะเดียวกันก็ควรเลือกจากลักษณะและสารประกอบ ที่มีคุณสมบัติเหมาะตามที่ต้องการด้วยเช่นกัน นอกจากนี้คุณสาว ๆ ก็ควรหลีกเลี่ยงการอาบน้ำอุ่นจัด การอยู่กลางแดดจัด และควรดื่มน้ำให้มาก ๆ เพื่อช่วยทำให้การหมุนเวียนของเลือดดีขึ้น และที่สำคัญไม่ควรใช้สบู่ที่มีน้ำหอมและมีความเป็นด่างสูง หรือแม้แต่สบู่ฆ่าเชื้อเพราะจะยิ่งส่งผลให้ผิวแห้งมากยิ่งขึ้นนั่นเอง

1